Wednesday, December 20, 2006

โครงการ "หนังสือเรียนของหนู"

โครงการนี้ทำอะไร

โครงการนี้มีความตั้งใจที่จะ จัดส่งหนังสือเรียนและหนังสืออ่านอื่นๆ ให้กับนักเรียนที่ขาดแคลน ที่อยู่ในภูมิภาคห่างไกล


ใคร เป็นผู้ริเริ่มโครงการนี้

พันธ์พิมพ์เริ่มโครงการนี้ หลังจากร่วมกับคณาจารย์นำนิสิตออกภาคสนาม ไปยังบ้านโนนสำราญ จังหวัดมหาสารคาม ในเดือนธันวาคม 2549

พันธ์พิมพ์ขอกราบขอบพระคุณ รองศาสตราจารย์ ดร. ศรีเพ็ญ ศ. ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาทั่วไป จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้กรุณาให้โอกาสออก trip ในครั้งนี้ อาจารย์เปิดโอกาสให้พันธ์พิมพ์ทำให้หนึ่งในความตั้งใจเป็นจริงขึ้นมา

ใครจะเข้าร่วมได้บ้าง

เพื่อนสนิทและครอบครัวของพันธ์พิมพ์ จะร่วมกันบริจาคทรัพย์ส่วนตัว

ผู้มีจิตศรัทธาจะถูกเลือกสรรและเชิญชวนโดยตรงเป็นการส่วนตัว

พันธ์พิมพ์ทราบดีว่า เราทุกคนรู้สึกอย่างไรเมื่อมีคนมาขอบริจาค เราไม่มีการจัดยอดบริจาคขั้นต่ำ คุณค่าของทุกยอดบริจาคมีเหมือนกัน และได้รับมาด้วยความซาบซึ้งและขอบพระคุณเท่ากัน

แต่เม็ดเงินไม่ใช่รูปแบบเดียวของการบริจาค เรายินดีรับหนังสืออ่านใช้แล้วที่ทุกท่านมีจิตศรัทธาจะมอบให้ หรือแม้แต่เครื่องเขียน สมุดเปล่า หรืออุปกรณ์ต่างๆ สำหรับห้องเรียน **อย่างไรก็ดี ส่วนบริจาคที่เป็นเงินสดจะถูกใช้กับการจัดซื้อหนังสือเท่านั้น**

และจะยิ่งดีขึ้นไปอีก หากพวกเราเลือกหนังสือดีๆ เอง ติดไม้ติดมือมาให้เราเมื่อท่านไปร้านหนังสือ โทรบอกพันธ์พิมพ์เพื่อหาทางส่งหนังสือให้ทางเรา เพื่อขึ้นบัญชี และส่งต่อไปยังโรงเรียน

**ยอดบริจาคทุกยอดและทุกอย่าง และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง**
ตรวจสอบได้ โดยจะถูกนำมาแสดงไว้ที่ ยอดบริจาคและค่าใช้จ่าย

ชมภาพหนังสือเรียนที่ถูกแจกจ่ายไปแล้ว ได้ที่ หนังสือเรียนที่จัดซื้อ หรือตรวจสอบ รายรับรายจ่าย ที่ รายการทั้งหมด.

ใครจะได้ประโยชน์จากโครงการนี้

แน่นอนที่สุด ก่อนอื่น ท่านผู้มีจิตศรัทธา จะรู้สึกดีมากๆ เมื่อได้ทำกุศล

ต่อมา คือ หนูๆ ผู้รับของขวัญทางปัญญา จากท่านผู้ใจบุญ ที่ได้ให้หนังสือ เพื่อให้ความรู้และสร้างปัญญา ซึ่งพวกเขาจะสามารถนำไปอ่านทบทวนต่อที่บ้านได้ นอกจากนั้น พวกเขาจะรู้สึกอุ่นใจ ที่ได้ทราบว่า ยังมีคนอื่นๆ (“พวกเราผู้ให้”) ที่สนใจและเป็นห่วงชีวิตและอนาคตของเขาอยู่

หนูๆ เหล่านั้นจะแสดงความขอบพระคุณด้วย การเขียนจดหมายขอบพระคุณ โดยท่านผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้รวบรวม ส่งมาที่พันธ์พิมพ์ ซึ่งจะเป็นผู้ส่งต่อมายังผู้บริจาคแต่ละท่าน (พันธ์พิมพ์จะแปลจดหมายสำหรับเพื่อนๆ ชาวอเมริกัน ซึ่งจะได้รับทั้งต้นฉบับและคำแปล)

หนังสือเรียนชุดแรกจะถูกส่งไปยัง โรงเรียนบ้านโนนสำราญ จังหวัดมหาสารคาม


ทำไมเราจึงควรให้

เพราะว่าการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นสิทธิของเด็กทุกคน นอกเหนือจากการมีศีลธรรม จริยธรรม และการปฏิบัติตัวที่ดีงามแล้ว การศึกษาและความรู้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอันดับสอง ที่จะทำให้คนเรามีชีวิต ความเป็นอยู่ดีขึ้น การศึกษาไทยขาดทั้งคุณภาพ และความเสมอภาค ความเท่าเทียมกันมานานแล้ว ประชาชนคนธรรมดาอย่างเราๆ จึงต้องช่วยกันและกันเท่าที่จะทำได้

เมื่อไม่มีใครที่จะเป็นที่พึ่งได้ พันธ์พิมพ์ก็คิดหาทางช่วยเด็กๆ ด้วยตนเอง ประชาชนทุกคนต้องช่วยตัวเอง อย่าไปคาดหวังอะไรจากใคร "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"

และเมื่อพันธ์พิมพ์ได้เห็นเด็กๆ เหล่านั้น ขาดแม้กระทั่งหนังสือเรียนที่จำเป็น เราต้องไม่ยอมให้การขาดความรู้ และการขาดโอกาส มาเป็นสิ่งที่ทำให้เด็กๆ ตกอยู่ในวังวนของความเขลาและสิ้นหวัง



ทำไมพันธ์พิมพ์ถึงได้ทำเช่นนี้

พวกเราทุกคนมีบุญนักหนา ที่มีเงินทองสำหรับจับจ่าย และซื้ออะไรก็ตามที่อยากได้ และแน่นอน เราโชคดีมหาศาลที่มีแหล่งความรู้อยู่้แค่เอื้อม เมืองใหญ่ๆ มีร้านหนังสือและห้องสมุดที่เรา access ได้โดยง่าย

พวกเราหลายคนคงจะซื้อนิตยสาร “แฟชั่น” รายเดือน รายสัปดาห์ ที่แพงเกินจำเป็น และเต็มไปด้วยโฆษณา เคล็ดลับในห้องนอน(!!) เคล็ดลับความงาม และสินค้าฟุ่มเฟือยทางโลกต่างๆ เมื่ออ่านเสร็จ เราก็คงโยนทิ้งหรือให้ใครไปอ่านต่อ สิ่งที่เราอ่านๆ คงจะทำให้เรารู้สึกดีชั่วครั้งชั่วคราว ไม่จีรังยั่งยืน ขอถามว่า เรารู้สึกแย่บ้างไหมหากต้อง “โยนหนังสือทิ้ง”

เด็กบางคนไม่มีแม้แต่หนังสือเรียนที่จำเป็นต้องใช้ สำหรับบทเรียนและการบ้าน

เปล่านะ พันธ์พิมพ์ไม่ได้บอกให้เลิกซื้อนิตยสารพวกนั้น แต่อยากให้ลองนึกดูว่า เราเคยนึกอยากใช้เงินจำนวนเท่ากันนั้น เพื่อซื้อ “หนังสือเรียน หรือ หนังสือให้ความรู้” ที่มีค่ามหาศาลต่อเด็กๆ ผู้รับ หนังสือเรียนเหล่านี้จะคงอยู่ และถูกใช้ในระยะเวลายาวนานกว่านิตยสารทั้งหลาย และเป็นสิ่งที่สอนเด็กๆ ในสิ่งที่หาค่าไม่ได้ต่ออนาคตของพวกเขา

เราจะสามารถวัดอำนาจของความรู้ได้อย่างไร เราจะประเมินราคาของความรู้ได้อย่างไร

ความเป็นครูและความเป็นนักเรียนตลอดชีวิตของพันธ์พิมพ์ ทำให้พันธ์พิมพ์มีความตั้งใจที่จะซื้อ หรือหาหนังสือให้เด็กๆ ที่ขาดแคลน

หากไม่สามารถออกไปช่วยเหลือพวกเขาด้วยตัวเราเองได้ (ก็ไม่ใช่ว่าเราทุกคนจะเป็นครูได้) สิ่งที่ดีที่สุด คือ การส่งเครื่องมือไปให้เขา

พันธ์พิมพ์จะซื้อหนังสือทั้งหมดเองก็ได้ แต่ไม่อยากเพราะคงไม่สนุก นอกจากนั้นพรรคพวกเพื่อนฝูงของพันธ์พิมพ์ เป็นคนที่มีจิตใจดี ใจบุญ และรักที่จะให้ ทำไมไม่ชักชวนกันมาทำสิ่งที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่าเหลือคณานับ ยิ่งหลายๆ คน ยิ่งดี

ดังนั้น พันธ์พิมพ์จึงขอเชิญชวนพวกเรา ร่วมกันให้ของขวัญทางความรู้ และทางปํญญา ให้เด็กๆ ที่ขาดแคลน เพื่อให้เขาได้โตขึ้นอย่างไม่ขาดแคลนต่อไป


ท่านจะช่วยกันได้อย่างไร

พันธ์พิมพ์จะรวบรวมทรัพย์ (และหนังสือบริจาค) จากผู้มีจิตศรัทธา ไปเลือกซื้อหนังสือที่เด็กๆ ต้องการใช้ และส่งไปยังโรงเรียน

รายละเอียดอยู่ใน ข้อปฏิบัติของโครงการ page.

เราจะทำบ่อยแค่ไหน
เทอมละครั้ง หรือ 2 ครั้งต่อปี เราจะซื้อหนังสือที่ต้องเขียนลงไปในเล่ม (เช่น หนังสือแบบฝึกหัด หนังสือระบายสี) ให้ใหม่

หนังสือเรียนที่ใช้ต่อได้ ก็จะถูกส่งต่อลงมาให้รุ่นน้อง จนกว่าเล่มจะยับเยิน หรือ จนกว่า ฉบับปรับปรุงใหม่จะออกมา

หากยอดบริจาคใหญ่พอ พันธ์พิมพ์จะหาโรงเรียนอื่นเพื่อช่วยเหลือต่อไป แต่เราจะไม่รีบร้อนทำในส่วนนื้ เนื่องจากเราจะช่วยเหลือโรงเรียนเล็กๆ ให้มีคุณภาพดี โดยไม่พยายามทำมากเกินไป (เราไม่สนใจจำนวนหรือปริมาณ เรามุ่งเน้นคุณภาพ)



เด็กๆ อยากได้หนังสืออะไร

โปรดอ่านจาก Schoolbooks for Kids

หนังสือที่เราส่งไปให้แล้ว โปรดดูที่ หนังสือที่ส่งไปแล้ว


โรงเรียนใดบ้างที่เราช่วยเหลือ

กรุณาดูที่ รายชื่อโรงเรียนที่เราช่วยเหลือ


”การให้ เป็นกุศล กว่าการได้รับ”


“พวกหนู นักเรียนโรงรียนบ้านโนนสำราญ ขอขอบพระคุณในความกรุณาล่วงหน้าค่ะ”